ครูบุญยงค์ เกตุคง (2463-2539) คีตกวี นักดนตรีที่มีชื่อเสียงชาวไทย ได้รับยกย่องสรรเสริญว่าเป็นระนาดเทวดา เพราะมีฝีมือบรรเลงระนาดเอกได้ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยเดียวกัน และเป็นผู้ก่อตั้งวงฟองน้ำ มีบทบาทที่สำคัญในการทลายกรอบของจังหวะที่ใช้ลูกตกเป็นจังหวะหนักหรือจังหวะที่ถูกเน้น ให้เกิดการเล่นแบบเน้นที่จังหวะยกแทน (Syncopation) และนำเทคนิคดังกล่าวมาประพันธ์ดนตรีที่สำคัญ ๆ หลายต่อหลายชิ้น ชิ้นที่โด่งดังมากมีชื่อว่า "ชเวดากอง"
ครูบุญยงค์ เกตุคง เป็นบุตรชายคนใหญ่ของนายเที่ยงและนางเขียน เกตุคง. เกิดเมื่อวันอังคาร เดือน 4 ปีวอก ตรงกับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2463 ที่ตำบลวันสิงห์ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร บิดามารดามีอาชีพเป็นนักแสดง ซึ่งต้องย้ายสถานที่ประกอบอาชีพบ่อย ๆ เมื่อยังเยาว์จึงอาศัยอยู่กับตาและยายที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการศึกษาชั้นต้นที่วัดช่องลม และเริ่มหัดเรียนดนตรีไทยกับครูละม้าย (หรือทองหล่อ) ซึ่งเป็นครูสอนดนตรี อยู่บ้านข้างวัดหัวแหลม จังหวัดสมุทรสาคร
เมื่ออายุได้ 10 ปี ก็สามารถบรรเลงฆ้องวงทำเพลงโหมโรงเช้าและโหมโรงเย็นได้ ซึ่งถือว่าได้ผลการศึกษาดนตรีขั้นต้น ครั้นอายุได้ 11 ปี บิดาได้นำไปฝากให้เป็นศิษย์ของครูหรั่ง พุ่มทองสุข ซึ่งเป็นครูดนตรีมีชื่ออยู่ที่ปากน้ำภาษีเจริญ โดยมีน้องชายชื่อบุญยัง เกตุคง ไปร่วมเรียนด้วย และได้เป็นเพื่อนร่วมเรียนดนตรีพร้อมกับนายสมาน ทองสุโชติ ได้เรียนอยู่ที่บ้านครูหรั่งนี้ประมาณ 2 ปี จนสามารถบรรเลงเดี่ยวฆ้องวงเล็กได้ ก็ย้ายไปเรียนดนตรีกับพระอาจารย์เทิ้ม วัดช่องลม จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานที่เรียนดนตรี ที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งในยุคนั้น
เมื่อครูอายุได้ 16 ปี บิดาเห็นว่ามีความรู้เพลงการดีพอสมควรจะช่วยครอบครัวได้ จึงช่วยให้ไปทำหน้าที่นักดนตรีประจำคณะนาฎดนตรีของบิดา ซึ่งแสดงเป็นประจำอยู่ที่วิกบางลำภู กรุงเทพมหานคร โดยเริ่มจากคนตีฆ้องวงใหญ่ แล้วจึงได้เป็นคนตีระนาดเอก ทั้งนี้ได้รับการฝึกสอนเป็นพิเศษจากอาชื่อนายประสิทธิ์ เกตุคง ให้มีความรู้เรื่องเพลงสองชั้นที่ลิเกให้ร้องเป็นประจำ จึงมีความรู้และไหวพริบดีมากขึ้นในเรื่องเพลงประกอบการแสดง เป็นที่ทราบกันว่าย่านบางลำภูนั้นเป็นที่ใกล้ชิดกับบ้านนักดนตรีไทยหลายบ้าน โดยเฉพาะบ้านของสกุล ดุริยประณีต ซึ่งมีนายชื้นและนายชั้น ดุริยประณีต บุตรชายของครูสุข ดุริยประณีต มาช่วยบิดาครูบุญยงค์ตีระนาดประกอบการแสดงลิเกเป็นครั้งคราว จึงได้สนิทสนมไปมาหาสู่กันจนเกิดความคุ้นเคยเป็นอันมาก ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ทางเพลงกันมากขึ้นเป็นลำดับ
ต่อจากนั้นครูบุญยงค์ได้เดินทางไปเรียนดนตรีจากครูเพชร จรรย์นาฎย์ ครูดนตรีไทยฝีมือดีและเป็นศิษย์ที่มีชื่อเสียงของท่านครูหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อปี พ.ศ. 2485 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในกรุงเทพมหานคร การแสดงดนตรีซบเซาลง จึงให้เวลาว่างประกอบอาชีพแจวเรือจ้างอยู่ระยะหนึ่ง แล้วไปสมัครเป็นศิษย์ท่านครูจางวางทั่ว พาทยโกศล ณ บ้านดนตรี วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี จึงได้เรียนรู้ทางเพลงทั้งทางฝั่งพระนครและทางฝั่งธนเป็นอย่างดี เมื่อน้ำลดแล้ว จึงได้เรียนดนตรีเพิ่มเติมอีกจากครูสอน วงฆ้อง ซึ่งช่วยสอนดนตรีอยู่ที่บ้านดุริยประณีตนั้น
สมัยที่พลโทหม่อมหลวงขาบ กุญชร เป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ครูบุญยงค์ เกตุคง ได้สมัครเข้าเป็นนักดนตรีประจำวงดนตรีไทยของกรมประชาสัมพันธ์ ทำให้ได้ใกล้ชิดกับนักดนตรีอีกหลายคน อาทิ ครูประสงค์ พิณพาทย์ และครูพุ่ม บาปุยะวาทย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าวงดนตรีไทยอยู่ในขณะนั้น
ในระหว่างที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการ ครูบุญยงค์ได้ร่วมมือกับอาจารย์บรูซ แกสตัน ก่อตั้งวงดนตรีไทยร่วมสมัยชื่อ “วงฟองน้ำ” ขึ้น ครูบุญยงค์ เกตุคง ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2539 สิริรวมอายุได้ 76 ปี ได้รับยกย่องสรรเสริญว่าเป็นระนาดเทวดา เพราะมีฝีมือบรรเลงระนาดเอกได้ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยเดียวกัน และท่านยังได้รับคำยกย่องอีกว่าเสียงระนาดของท่านเปรียบได้กับเสียงของไข่มุกร่วงบนจานหยก
นอกจากนั้นท่านยังได้รับการยอมรับนับถือจากเซอร์ ไซมอน แรทเทิล (Sir Simon Rattle [1955]) วาทยากรชาวอังกฤษ (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งวาทยากรหลักของวงเบอร์ลินฟิลฮาร์โมนิคออร์เคสตรา) ในฐานะครูผู้ใหญ่อีกด้วย
ชื่อเกิด | บุญยงค์ เกตุคง | |
ฉายา | ไข่มุกหล่นบนจานหยก ระนาดเทวดา | |
วันเกิด | มีนาคม พ.ศ. 2463 | |
เกิดที่ | เขตบางขุนเทียนกรุงเทพมหานคร | |
เสียชีวิต | 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 (76 ปี) | |
แนวเพลง | เพลงไทย | |
อาชีพ | ข้าราชการกรุงเทพมหานคร นักดนตรีไทย | |
เครื่องดนตรี | ระนาด | |
ปี | พ.ศ. 2473 - พ.ศ. 2539 | |
ค่าย | วงดนตรีไทยกรุงเทพมหานคร |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น